วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2556

เหรียญเทวบดี (9 เศียร) หลวงพ่ออิฏฐ์ วัดจุฬามณี ปี2542


เหรียญเทวบดี (9 เศียร) พระครูโสภิตวิริยากรณ์ (หลวงพ่ออิฏฐ์) วัดจุฬามณี อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ปี 42 สร้างโดยกองกษาปณ์


    พระครูโสภิตวิริยากรณ์ หรือที่รู้จัก และเรียกขานกันทั่วไปในนาม หลวงพ่ออิฎฐ์ วัดจุฬามณี จ.สมุทรสงคราม ท่านเป็นศิษย์เอกผู้สืบทอดสรรพวิชาการจากหลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี พระเกจิอาจารย์นามกระเดื่องในอดีต แห่งลุ่มน้ำแม่กลอ
         นอกจากนี้หลวงพ่ออิฏฐ์ ก็ยังได้เคยศึกษาร่ำเรียนเพิ่มเติมจากพระเกจิชื่อดัง ผู้แก่กล้าพระเวทย์ วิทยาคมอีกหลายองค์อาทิ หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ และหลวงพ่อเริ่ม วัดจุกกระเชอ เป็นต้น
          ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้หลวงพ่ออิฎฐ์มีความรอบรู้เชี่ยวชาญทั้งในด้านพุทธเวท ไสยเวทวิทยาคมเป็นที่ยอมรับนับถือของสาธุชนทั่วไป ดังนั้นไม่ว่าจะมีพิธีพุทธาภิเษกครั้งสำคัญ ณ ที่ใดก็มักจะปรากฏนามหลวงพ่ออิฏฐ์ไ ด้ร่วมในพิธีนั่งปรกปลุกเสกด้วยเสมอ และจากการที่หลวงพ่ออิฏฐ์ รอบรู้เชี่ยวชาญในด้านคาถาอาคมอักขระเลขยันต์อย่าง เจนจบ ท่านจึงได้รับเกียรติประวัติ ให้เป็นผู้ลงจารยันต์ตระกรุดมหาจักรพรรตราธิราช ในแผ่นทองคำ ในพิธีจักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก ณ อุโบสถวัดพระศรีมหาธาตุวรวิหาร จ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ 2- 3 พ.ค.2542 เพื่อถวายแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว


       


ในปี พ.ศ.2542 หลวงพ่ออิฏฐ์ ได้จัดสร้างพระกริ่ง เวฬุวัน , เหรียญมหาเทวบรมครู และเหรียญหล่อแม่นางกวัก ขึ้น ซึ่งก็ปรากฏว่าเป็นวัตถุมงคล ที่มีความนิยมเป็นที่เสาะแสวงหากันอย่างกว้าง ขวาง 
        สำหรับในปี 2543 หลวงพ่ออิฎฐ์ได้ดำเนินการออกแบบจัดสร้าง เหรียญเทวบดี ขึ้นโดยมอบหมายให้กองกษาปณ์ กรมธนารักษ์เป็นผู้ผลิต นับเป็นเหรียญที่ผ่านการออกแบบอย่างชาญฉลาด มีความสวยงามความหมายลึกซึ้ง และเป็นมหามงคลอย่างยิ่ง 
 คือ ด้านหน้าเหรียญเทวบดี ได้นำพระยันต์พระลักษณ์หน้าทองประทับไว้กึ่งกลางเหรียญ และล้อมรอบด้วย เศียรของมหาเทพผู้ยิ่งใหญ่ 9 พระองค์ ซึ่งแต่ละพระองค์มีรายละเอียดและความสำคัญดังนี้.
  •     พระอิศวร เทพเจ้าผู้สร้างโลก กายสีขาว มงกุฎน้ำเต้า ทรงตรีศูลเป็นเจ้าฟ้า พระอุมาภควดี เป็นพระมเหสีพระองค์มีอำนาจสูงสุดในการควบคุมเหล่าภูติให้กระทำสิ่งต่างๆ เพื่อช่วยเหลือผู้บูชาพระองค์อย่างเคร่งครัด


  • พระพรหมธาตา เทพเจ้าแห่งพรหมวิหาร กายสีขาว 4 พักตร์ 8 กร มงกุฎน้ำเต้า 5 ยอด ทรงซ้อน ลูกประคำ คนโท คัมภีร์พระเวทย์ มีธนู  ผู้ศรัทธาในพระพรหม เมื่อสวดบูชาต่อพระองค์แล้ว พระองค์จะประทานปัญญาในการประกอบอาชีพ ปกป้องให้ห่างจากศัตรู ประทานความแข็งแรง ความรู้แจ้ง ชี้แนะแนวทางแก้ไขปัญหาต่างๆ และมอบความบริสุทธิ์ทางจิตวิญญาณแก่ผู้นั้น
  •  พระนารายณ์ เทพเจ้าผู้รักษาความดี กายสีดอกตะแบก มงกุฎเดินบน มงกุฎชัยห้ายอด ทรงตรี คฑาทอง จักร และสังข์ 
  • พระวิษณุ เทพเจ้าแห่งครูช่างทุกชนิด กายสีเขียว มงกุฎน้ำเต้าทรงลูกดิ่ง และฉาก    ทรงมีเทวานุภาพขจัดเหล่ามารและสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง พระองค์ทรงคุ้มครองทุกสรรพชีวิต ทรงบันดาลอำนาจวาสนาแก่มนุษย์ทุกคนที่ระลึกถึงพระองค์อยู่เสมอ อสูรและเหล่ามารทุกตนล้วนแล้วแต่เกรงกลัวอานุภาพแห่งพระองค์ 

  • พระคเณศ เทพเจ้าแห่งศิลปะวิทยาการ  วรรณคดี  ความสำเร็จ ขจัดความขัดข้องทั้งปวงกายสีสัมฤทธิ์ พระเศียรเป็นช้าง สี่กร มงกุฎน้ำเต้ามะเฟือง ทรงวชิระ มีงา ข้างเดียว กะโหลกใส่น้ำมนต์ มีเชือกบ่วงบาศก์ 

   - พระปัญจสีขร เทพเจ้าแห่งวิชาการดนตรี กายสีขาว หนึ่งหน้า สี่มือ มงกุฎน้ำเต้าสี่ยอด

   - พระประโคนธรรพ เทพคนธรรพ์ กายสีหงเสน หรือสีแดงเสน 1 หน้า 2 มือ มงกุฎน้ำเต้า มีวงทักษิณาวรรต ทั้งตัว
   - พระพิราพ อสูรเทพบุตร หัวโล้น (พิราพป่า) มีกายเป็นวงทักษิณาวรรต หรือกายม่วงแก่ หนึ่งพักตร์ สองกร สวมกระบังหน้าปากแสยะ ตาจระเข้ อาวุธหอกอยู่เชิงเขาอัคกรรณ มีสวนสำหรับเที่ยวเล่น ปลูกพวาทอง
   - พระฤาษี (พระพรตมุณี) พฤฒาจารย์แห่งสรรพวิทยา


ด้านหลังเหรียญเทวบดี ประทับไว้ด้วยพระยันต์มหาจักพรรตราธิราช ซึ่งนับเป็นพระยันต์ศักดิ์สิทธิ์ และมีพุทธานุภาพสุดประมาณมีความเป็นมาและรายละเอียดดังนี้
            พระยันต์มหาจักพรรตราธิราชนี้ต้นตำหรับเดิมประดิษฐานอยู่ ณ วัดประดู่โรงธรรม กรุงเก่าสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ตามตำรากล่าวไว้ว่า พระพรหมมุนี อยู่วัดปากน้ำประสบ ได้ลงเป็นตะกรุดคำถวายสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเจ้ามาแล้ว จนกระทั่งพระองค์ได้ครองเมืองลพบุรี สมเด็จพระนารายณ์มหาราชเป็นพระราชโอรสสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง เมื่อทรงได้เป็นพระเจ้าแผ่นดิน ได้พระตำรานี้มาจากมหาเถรเทียรราชวัดงู มาจากพระพิชัยวัดท่างูเห่ากับได้มาจากพระอาจารย์คงโหร และได้มาจากท่านอาจารย์ผู้วิเศษสืบๆ มาหาที่อุปมามิได้ ต่อมาภายหลังในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์นี้เคยได้มีการประกอบ พิธีลงยันต์ตะกรุดนี้ถวายสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ซึ่งทรงให้มีกาลประกอบพิธีสร้างตะกรุดมหาจักรพรรตราธิราช
            อนึ่ง ในวันที่ 2 - 3 พ.ค. 2542 หลวงพ่ออิฏฐ์ ได้ลงยันต์ตะกรุดมหาจักรพรรตราธิราชในแผ่นทองคำ ในพิธีจักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก ณ อุโบสถ วัดศรีมหาธาตุวรวิหาร เพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นก็ได้เลิกลงแผ่นยันต์มหาจักรพร รตราธิราช และจัดสร้างเหรียญนี้ขึ้น โดยมีพระยันต์มหาจักรพรรตาธิราชอยู่ด้านหลังเหรียญ “ เทวบดีแทน ”
             พิธีประจุพุทธาคม เดี่ยวจากหลวงพ่ออิฎฐ์ ตลอดไตรมาส และยังนำเหรียญเทวบดีทั้งหมดเข้าร่วมในพิธีมหาพุทธาภิเษก พระพุทธชินราชจำลอง รุ่น ญส.ส. ณ พระวิหารหลวง วัดพระศรีมหาธาตุวรวิหาร จ.พิษณุโลก ในวันพฤหัสบดีที่ 23 พฤศจิกายน 2543 อีกครั้งหนึ่ง นับเป็นเหรียญที่ควรค่าแก่การบูชาสักการะ เพื่อความเป็นสิริมงคลอย่างที่สุด เพราะนอกจากจะมีความสวยงามในด้านการพิมพ์ ซึ่งในตัวเหรียญล้วนแล้วแต่เป็นมหาเทพผู้ทรงอิทธิฤทธิ์บุญฤทธิ์ ส่วนในด้านการประจุพุทธาคมก็กระทำกันอย่างเพียบพร้อมสมบูรณ์
จำนวนสร้าง
- เหรียญเทวบดี เนื้อทองคำ จำนวนสร้าง 30 องค์
- เหรียญเทวบดี เนื้อเงิน จำนวนสร้าง 1,000 องค์
- เหรียญเทวบดี เนื้อนิเกิ้ล (อัลปาก้า) จำนวนสร้าง 40,000 องค์

วัตถุประสงค์ :
- เพื่อสร้างหอพระให้กับวิทยาลัยเทคนิคสมุทรสงคราม
- เป็นทุนการศึกษาแก่นักเรียน นักศึกษา ตั้งแต่ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา อุดมศึกษา และอาชีวศึกษา
- บูรณะปฏิสังขรณ์เสนาสนะภายในวัดจุฬามณี
เหรียญเทวบดี หลวงพ่ออิฏฐ์ วัดจุฬามณี สร้างปีพ.ศ. 2542 โดยกองกษาปณ์ผลิตให้ สภาพสวยเดิมๆ ศิษย์เอกหลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี ท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านไสยเวทวิทยาคม เหรียญเทวบดี เป็นเหรียญมหาเทพ เช่น พระอิศวร พระนารายณ์ พระวิษณุ พระพิฆเนศวร ขนาด 2.8 * 3.5 ซม. 
**เหรียญนี้บวงสรวงเทพทั้งหมด 9 พิธี ทำพิธีบรวงสรวงครั้งละ 1 เศียร**







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น