หลวงพ่อมักจะกล่าวถึงพระสิวลีอยู่เสมอ บางครั้งท่านก็เล่าประวัติพระสิวลีเมื่อครั้งบำเพ็ญบารมี มีทั้งเรื่องที่มีในตำราและเรื่องที่ไม่ปรากฎในตำรา
คราวหนึ่งทางวัดร้องขุ้มได้สร้างผ้ายันต์พระสิวลีเผื่อไปขอเมตตาหลวงพ่อ หลังจากหลวงพ่อเห็นผ้ายันต์ ท่านก็ยิ้มแล้วพูดว่า
“พระสิวลี พ้องกับนามสกุลเก่าเราก่อนบวช (สิมมลี)”
และท่านก็หยิบผ้ายันต์ขึ้นมาดูหลายครั้ง ทำให้เหล่าศิษย์เชื่อว่า ท่านชอบพระสิวลี
ครั้งหนึ่งทางวัดศรีมุงเมือง ได้ไปกราบขออนุญาติหลวงพ่อ เพื่อสร้างเหรียญพระเพชรเงินล้านด้านหลังเป็นพระสิวลีนั่ง เพื่อนำไปแจกกับผู้มาร่วมทำบุญสร้างวิหาร ไทลื้อปุญญมากโร พอหลวงพ่อเห็นพระสิวลีท่านก็กล่าวว่า “ดีแล้วได้พระสิวลีค้ำวิหาร”
(หมายเหตุ; วิหารไทลื้อปุญญมากโร คือวิหารของวัดศรีมุงเมืองที่หลวงพ่อประสิทธิ์ท่านรับเป็นประธานสร้างฝ่ายสงฆ์ และมอบฉายาของหลวงพ่อเป็นชื่อมหาวิหาร ซึ่งเป็นการสร้างใหม่ โดยให้มีขนาดเท่าวิหารเดิมที่ชำรุดทรุดโทรมมากแล้ว)
และเนื่องด้วยปีนี้(2552) หลวงพ่อท่านอาพาธ เหล่าศิษย์ทั้งหลายได้ทำบุญด้วยวิธีต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นปล่อยสัตว์ต่างๆสร้างเหรียญพุทธเมตตา ฯลฯ
และได้มีคณะลูกศิษย์กลุ่มหนึ่งนำโดยคุณชาตรี อาจศัตรู ได้กราบเรียนขออนุญาติหลวงพ่อ
ที่จะหล่อพระสิวลีนั่งขนาดเท่าองค์หลวงพ่อไว้ที่วิหารขององค์หลวงพ่อที่วัดศรีมุงเมือง เพื่อถวายกุศลแด่องค์หลวงพ่อเพื่อให้ธาตุขันธ์หลวงพ่อแข็งแรง
ซึ่งหลวงพ่อท่านก็กล่าวว่า "อ๋อ ต่ออายุ มีคนทำให้เราเยอะที่ชัยภูมิก็มีปล่อยวัว แล้วมันก็ได้ผล ตอนนี้มันเลยตายมาแล้ว”
และหลวงพ่อท่านก็เมตตาอนุญาติ หลังจากกราบเรียนท่านเรื่องวันหล่อคือวันที่ 15 เมษายน 2553 ที่วัดศรีมุงเมือง หลวงพ่อก็เมตตารับเป็นประธานในการหล่อ
ทางคณะจึงได้กราบเรียนว่า “หากวันนั้นธาตุขันธ์หลวงพ่อไม่อำนวยก็ไม่เป็นไรครับ”
หลวงพ่อท่านก็เมตตารับว่า “เรื่องการเจ็บป่วยเป็นธรรมดา แต่ไม่เป็นไรถึงจะป่วยก็จะฝืนไปให้ อยู่ใกล้ๆเอง”
หลังจากนั้นทางเจ้าอาวาสวัดศรีมุงเมืองได้นำชนวนที่จะหล่อพระเข้าไปขอเมตตาหลวงพ่อ
พร้อมกับกราบเรียนขออนุญาติหลวงพ่อสร้างพระสิวลีนั่งขนาด3, 5, 9 นิ้วและแบบลอยองค์
ซึ่งหลวงพ่อก็รับว่า “ไม่เป็นไร อนุญาติ สร้างพระสิวลีก็ดี ลาภเยอะดี”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น